5 ความจริงสิ่งที่ “อิชิอิ” ต้องรับมือ หลังรับงานคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่

5 ความจริงสิ่งที่ _อิชิอิ_ ต้องรับมือ

5 ความจริงสิ่งที่ “อิชิอิ” ต้องรับมือ หลังรับงานคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี เข้ามารับงานคุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่ แทน มาโน่ โพลกิ้ง ที่ผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจของแฟนบอลชาวไทย

ต่อไปนี้คือ 5 สิ่งที่ อิชิอิ ต้องรับมือ เมื่อเข้ามารับงานนี้ ที่เปรียบเสมือนงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตการเป็นกุนซือเลยก็ว่าได้

  1. อิสรภาพคุณจะหมดไป

เมื่อไหร่ก็ตามที่ผลงานแย่แพ้ติด ๆ กัน อิชิอิ จะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง หรืออาจถูกแทรกแซงจาก “บุคคลลึกลับ” จนไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นแน่

หากอย่างแย่ ๆ แพ้ทีมจากย่านอาเซียน บอกเลยว่าเละ และจะถูกดันจากทุกภาคส่วนโดยปริยาย

  1. แฟนบอลไทยดีกรี “โปร ไลเซนส์” น่ากลัวมาก

ไม่ว่า อิชิอิ จะเก่งฉกาจโปรไฟล์โหดคุมทีมได้ 10 แชมป์กับ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บวกกับมีดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมเจลีกแห่งปี 2016 เก่งแค่ไหนเมื่อมาคุม “ช้างศึก” แล้วผลงานสะดุดสัก 1-2 นัด คุณจะถูกโจมตีจากแฟนบอลไทยบนโลกออนไลน์ทั่วแผ่นดินแน่นอน

อีกประการ หากเรียนตามตรง แบบไม่ต้องโลกสวยอะไร คือว่า แฟนบอลที่นี่รอไม่เป็นนะครับ บอลแพ้มาเมื่อไหร่ พวกเขาจะระดมพล โชว์กึ๋นศาสตร์โค้ชเคาะลงบนแป้นพิมพ์กันระนาว

  1. เราต้องได้แชมป์ซีเกมส์

“อิชิอิ” คุณต้องรู้ว่า นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องการมาก ๆ ที่มากที่สุด เพราะมันเป็นมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน เราจะพลาดแชมป์รายการไหนก็ได้ แต่เราต้องไม่พลาดเหรียญทองซีเกมส์ มันคือความภาคภูมิใจของปวงชนชาวไทย

แถม “ช้างศึก” ของเรานี่ไม่ได้เหรียญทองมา 3 ครั้งติดต่อกันแล้วนะครับ (ปี 2019, ปี 2021, ปี 2023) โดย 2 ครั้งหลังเราได้แค่เหรียญเงินเท่านั้น ทำให้ในปี 2025 ที่ประเทศไทยเราจะเป็นเจ้าภาพ ไม่ว่าตอนนั้น “อิชิอิ” จะมีโปรแกรมเตะของทีมชุดใหญ่ยังไง คุณก็ต้องส่งนักเตะที่คุณเรียกติดทีมชุดใหญ่ ลงมาช่วยในทีม ยู-22 เพื่อคว้าเหรียญทองซีเกมส์ให้ได้

  1. รับให้ได้กับการบริหาร

ยังดีที่เคยทำงานคุมทีมในเมืองไทยมาแล้วตั้งแต่ปี 2019 อิชิอิ ก็น่าจะรู้แล้วแหละว่า ฟุตบอลไทยเป็นอย่างไร การบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่เหมือนชาติใดในโลก ปฏิทินหรือโปรแกรมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และอาจไม่เอื้อต่อการเตรียมทีมชาติไทย เพราะฉะนั้นคุณต้องรับมันให้ได้

เชื่อว่า อิชิอิ คงได้มีการปรึกษา “อากิระ นิชิโนะ” อดีตกุนซือทีมชาติไทยในช่วงปี 2019-2021 มาบ้างแล้ว ขนาดระดับ “นิชิโนะ” ผู้พาทีมชาติญี่ปุ่น ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย มาแล้วยังไปไม่รอดกับทีมชาติไทย อิชิอิ จะไปรอดไหมต้องมาติดตามกันให้ดี ๆ

  1. เราต้องไปฟุตบอลโลก

แฟนบอลชาวไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มีความฝันอันยิ่งใหญ่ คือการเห็นทีมชาติไทย ไปตะลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ให้ได้ ความคาดหวังยิ่งสูง มันก็ยิ่งกดดันแก่ “อิชิอิ” เพราะอย่าลืมว่า คุณเหลืออีก 4 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม รอบสอง

2 นัดต่อไปในปีหน้า คุณจะทำยังไงก็ได้ให้ไทยได้ 1 แต้มจากเกาหลีใต้ หรืออย่างแย่คืออย่าแพ้ขาด ก่อนจะลงเตะ 2 เกมสุดท้ายไปเยือน จีน และเปิดบ้านดวล สิงคโปร์ ต้อง 6 แต้มเต็มเท่านั้น พร้อมยิงประตูให้ได้เยอะที่สุด

หาก อิชิอิ พาเข้ารอบ 3 ได้ เสียงสนับสนุน และคำชื่นชมจะยิ่งทวีคูณเป็นล้านเท่า แต่ … หากอดเข้ารอบ 3 คุณจะถูกวิพากษ์วิจารณ์กระหน่ำ และถูกตั้งสมญานามว่า “ของปลอม” มาทันที

นี่คือ 5 ความจริงสิ่งที่ “อิชิอิ” ต้องรับมือ  เมื่อเข้ามารับงานคุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่ หวังว่า เขาจะรับมือกับมันได้ และพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ

 

ติดตามข่าวฟุตบอลออนไลน์ ผ่านระบบเว็บข่าวบอล เว็บไซต์ของคน คอบอล : เว็บข่าวฟุตบอล
การันตีจากเว็บไซต์หารายได้ผ่านระบบ เว็บเดิมพันบอลออนไลน์ที่ดีที่สุดเวลนี้ : ufabet

ขอบคุณข้อมูลจาก  : thairath.co.th