มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชคนใหม่ของฟุตบอลทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ

เจตนาของบทความ

บทความกล่าวถึงการกลับมาคุมทีมชาติไทยของอิชิอิ เป็น โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเน้นไปที่ประสบการณ์และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ของอิชิอิ รวมถึงความคุ้นเคยกับผู้เล่นทีมชาติไทยเป็นอย่างดี บทความคาดหวังว่าอิชิอิจะสามารถพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในศึกใหญ่ 2 รายการที่กำลังจะมาถึง

เกี่ยวกับฉัน

บทความทั้งหมดกล่าวถึงการได้โค้ชคนใหม่มาคุมทัพช้างศึก เพื่อแก้ปัญหาหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ยกระดับทีมชาติไทยชุดปัจจุบันให้เล่นเป็นระบบมากขึ้น

มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชคนใหม่ของฟุตบอลทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น วัย 55 ปี กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย คนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการคาดหมายว่าจะนำทัพช้างศึกลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023

อิชิอิ เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับสโมสรเอฟซี นาโกย่า ในลีกญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส เป็นเวลา 8 ปี และพาทีมคว้าแชมป์เจลีก 2 ฤดูกาล แชมป์เอฟเอคัพ 2 ฤดูกาล และแชมป์ซูเปอร์คัพ 2 สมัย

อิชิอิ โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว

มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยหลังพาทีมเอาชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 ในศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นัดแรกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมสามารถเก็บชัยชนะได้ คือ การเรียกนักเตะมาซ้อมร่วมกันเป็นเวลานาน และมีประสบการณ์เล่นด้วยกันมาก่อน อิชิอิ กล่าวว่า “เกมแรกเป็นเกมที่ยาก แต่ว่าเราสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ถือว่าน่าพอใจมาก

การจะมาสร้าง วิธีบอลแบบ japan way ของโค้ชคนใหม่นี้น่าติดตามและน่าสนใจอย่างยิ่งว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนต้องให้เวลาเขาให้มากกว่านี้ถึงจะวางรากฐาน วางโครงสร้างแบบญี่ปุ่นได้สำเร็จ จากข้อมูลนี้ https://www.jfa.jp/eng/japansway/ ได้พูดเกี่ยวกับกับวิถีฟุตบอลแบบญี่ปุ่นไว้ว่า สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) ได้เปิดตัว “วิถีฟุตบอลญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นปรัชญาการเล่นฟุตบอลแห่งชาติ มุ่งหวังที่จะพาญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกภายในปี 2050 “วิถีฟุตบอลญี่ปุ่น” ประกอบด้วย 4 เสาหลัก ได้แก่ 1.ทีมชาติ: สร้างทีมที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ 2.เยาวชน: พัฒนานักเตะดาวรุ่งสู่ระดับทีมชาติ 3.โค้ช: ฝึกฝนโค้ชให้มีทักษะและความรู้ 4.รากหญ้า: ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เล่นฟุตบอล JFA มุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ “วิถีฟุตบอลญี่ปุ่น” สู่วงการฟุตบอลทั่วประเทศ เพื่อสร้างความสามัคคีและพลังใจ พาญี่ปุ่นก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกัน

หลังจากเข้ามารับหน้าที่ โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย ก็พยายามเรียกนักเตะเป็นกลุ่มเป็นก้อน เคยเล่นด้วยกันให้มากที่สุด และทำงานร่วมกันมาก่อน ซึ่งมีส่วนสำคัญมากทำให้เราเก็บชัยชนะในเกมนี้”

นอกจากนี้ อิชิอิ ยังกล่าวถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันเอเชียนคัพ 2023 ว่า แม้จะมีความล่าช้าในการถ่ายทอดสด แต่ทีมก็ได้รับชมจากแฟนบอลชาวไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักเตะทุกคนรู้สึกดีใจ สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะพบกับ โอมาน ในวันที่ 21 มกราคม เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

ประวัติ อิชิอิ แข้งดังญี่ปุ่น สู่เฮดโค้ชทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกองกลางทีมชาติญี่ปุ่น วัย 55 ปี อิชิอิ เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2510 ที่เมืองอิจิฮาระ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจุนเต็นโด หลังจากเรียนจบ อิชิอิ จึงได้เข้าร่วมทีมเอ็นทีที คันโต แห่งเจแปนซอกเกอร์ลีก (เจลีก ในปัจจุบัน)

โดยอยู่กับทีม 2 ปี ได้รับโอกาสลงเล่นถึง 43 นัด ต่อมาจึงได้ย้ายซบซูมิโตโมะ เมทัล (คาชิม่า แอนท์เลอร์สในปัจจุบัน) ในปี 2534

อิชิอิ ลงเล่นให้กับคาชิม่า แอนท์เลอร์สเป็นเวลา 7 ปี ลงสนามไป 109 นัด ซัดไป 3 ประตู ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง เขาได้ย้ายสู่อวิสปา ฟูกูโอกะในปี 2541 พร้อมแขวนสตั๊ดหลังจากจบฤดูกาลด้วยวัยเพียง 31 ปี หลังจากแขวนสตั๊ด อิชิอิ ผันตัวมาเป็นโค้ช และเริ่มต้นคุมทีมเยาวชนของสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส ก่อนจะคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2558 และพาทีมคว้าแชมป์เจลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย และแชมป์ซูเปอร์คัพ 1 สมัย

ในปี 2560 อิชิอิ ย้ายไปคุมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก และพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย และแชมป์ซูเปอร์คัพ 1 สมัย

อิชิอิ คืนถิ่นคาชิม่า แอนท์เลอร์ส สานต่อความสำเร็จ

มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตนักเตะและผู้จัดการทีมคาชิม่า แอนท์เลอร์ส กลับมาสู่ทีมอีกครั้งในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่างเป็นทางการ เตรียมพาทีมลุยศึกเจลีก 2023 อิชิอิ เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับทีมเอ็นทีที คันโต ในปี 2531 ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในปี 2534 และค้าแข้งกับทีมเป็นเวลา 7 ปี ลงสนามไป 109 นัด ซัดไป 3 ประตู

หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2541 อิชิอิ ผันตัวมาเป็นโค้ช และเริ่มต้นคุมทีมเยาวชนของคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมในปี 2558 และพาทีมคว้าแชมป์เจลีกในปี 2559 พร้อมเข้าชิงชนะเลิศ FIFA Club World Cup 2016 อย่างไรก็ตาม ผลงานของอิชิอิ กับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในช่วงหลังเริ่มย่ำแย่ลง จนถูกปลดจากตำแหน่งในปี 2560

อิชิอิ กลับมารับงานคุมทีมอีกครั้งกับโอมิยะ อาร์ดีจา ในปี 2560 แต่ก็พาทีมตกชั้นสู่เจลีก 2 ในปี 2561 และลาออกจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาล การกลับมาคุมทีมคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ของอิชิอิ ในครั้งนี้ แฟนบอลต่างตั้งความหวังไว้ว่า เขาจะสามารถนำทีมกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้งได้

อิชิอิ ปลุกปั้นดาวรุ่งไทย พาสมุทรปราการ ซิตี้ จบอันดับ 6 ไทยลีก

มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือแชมป์เจลีก ออกผจญภัยครั้งใหม่ในเมืองไทย ด้วยการคุมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ทีมจากไทยลีกในสมัยนั้น (ปัจจุบันอยู่ในไทยลีก 2) ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลที่สงสัยว่าเขาทำไมถึงเลือกมาคุมทีมระดับกลางตาราง

อย่างไรก็ตาม อิชิอิ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือกุนซือชั้นยอด ด้วยการพาทัพเขี้ยวสมุทร ทะยานขึ้นไปจบอันดับ 6 ของไทยลีกฤดูกาล 2562 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดของทีมนับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาเล่นในไทยลีก

นอกจากผลงานในสนามแล้ว อิชิอิ ยังประสบความสำเร็จในการปั้นบรรดานักเตะดาวรุ่งของทีมขึ้นมาสู่ทีมชาติไทยหลายคน อาทิ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ธีระพล เยาะเย้ย ปฏิวัติ คำไหม และคนอื่น ๆ ที่เขาได้ปลุกปั้นขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลต่อมา 2563-64 สมุทรปราการ ซิตี้ ประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้ต้องขายตัวหลักออกไปเกือบหมดทีม ทำให้ อิชิอิ ต้องดันเยาวชนของทีมจำนวนมากขึ้นชุดใหญ่เพื่อสู้ศึกไทยลีก

แน่นอนว่าด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้สมุทรปราการ ซิตี้ จบที่อันดับ 13 ในเลกแรก และในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ต้นสังกัดประกาศแยกทางกับ อิชิอิ ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

อิชิอิ ลาออกทั้ง 2 ตำแหน่ง ปิดฉากความสำเร็จที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือแชมป์เจลีก ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคฟุตบอลของทีมชาติไทย รวมถึงตำแหน่งเฮดโค้ชของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นอันสิ้นสุดการทำงานกับทั้ง 2 ตำแหน่งของเขา

อิชิอิ เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 และพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก, เอฟเอคัพ และลีกคัพ ติดต่อกัน 2 ฤดูกาล ก่อนที่สโมสรจะดึงตัว อาเธอร์ ปาปาส เข้ามาเป็นผู้อำนวยการเทคนิคกีฬา ซึ่งจุดนี้เองเริ่มทำให้บทบาทของอิชิอิ ถูกลดน้อยลง

จากนั้น อิชิอิ ถูกส่งไปทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิคฟุตบอลของทีมชาติไทย ตามคำขอของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แต่การทำงานที่ต่างคนต่างทำ ระหว่าง อิชิอิ และ มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ส่งผลให้ทั้งสองคนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้

ในที่สุด อิชิอิ จึงตัดสินใจขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว รวมถึงตำแหน่งเฮดโค้ชของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อยุติบทบาทการทำงานในวงการฟุตบอลไทย

อิชิอิ กลับมากุมบังเหียนช้างศึก ลุยเอเชียนคัพ-คัดบอลโลก

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยหรือ โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย อีกครั้งอย่างเป็นทางการ แทนที่ มาโน โพลกิ้ง ที่ประกาศแยกทางกันไปก่อนหน้านี้ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทัพช้างศึก แถลงข่าวแต่งตั้งอิชิอิ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน โดยระบุว่า อิชิอิ ได้รับการแต่งตั้งเนื่องจากมีประสบการณ์และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในระดับเจลีก ไทยลีก รวมถึงบนเวทีฟุตบอลระดับชิงแชมป์สโมสรโลก

นอกจากนี้ อิชิอิ ยังมีความคุ้นเคยกับผู้เล่นทีมชาติไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยคุมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2566-2567 และพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดต่อกัน อิชิอิ มีภารกิจสำคัญในการพาทีมชาติไทยลุยศึกเอเชียนคัพ รอบสุดท้ายที่กาตาร์ในเดือนมกราคม 2024 และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกที่เหลืออีก 4 นัด

อิชิอิ กล่าวหลังรับตำแหน่ง โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย ว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสกลับมาคุมทีมชาติไทยอีกครั้ง ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่เราวางไว้” กุนซือทีมชาติไทยกล่าว หัวหน้าโค้ช คือผู้นำทีมที่มีหน้าที่สำคัญมากมาย ทั้งตัดสินใจทุกอย่างบนสนามและระหว่างการแข่งขัน เตรียมความพร้อมนักเตะทั้งด้านร่างกาย เทคนิค แทคติก และจิตใจ สื่อสารปรัชญาการเล่นฟุตบอลของตัวเองให้นักเตะเข้าใจ สร้างความไว้วางใจกับผู้ช่วย แบ่งงานให้ทุกคนในทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”[1]

ทีมชาติไทย
ภาพจาก : ไทยรัฐ

ประสบการณ์ชมฟุตบอลทีมชาติไทย ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 ศึกเอเชียนคัพ 2023

ผมมีโอกาสได้ชมการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย พบกับ คีร์กีซสถาน ในศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดแรก ที่สนามอัล อาห์ลี สเตเดียม ประเทศกาตาร์ ก่อนการแข่งขัน ผมรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังเป็นอย่างมาก เพราะทีมชาติไทยได้กลับมาคุมทีมโดย มาซาทาดะ อิชิอิ อีกครั้ง ซึ่งเคยพาทีมประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย

เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสทำประตูด้วยกันทั้งคู่ แต่ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา ยิงไปโดนผู้รักษาประตู คีร์กีซสถาน ปัดมาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด ซ้ำเข้าไป 1-0 ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังคงครองเกมได้เหนือกว่า และมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ศุภชัย ใจเด็ด ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด 2-0

โดยรวมแล้ว ผมมองว่าทีมชาติไทยเล่นได้ดีในเกมนี้ มีการครองบอลได้เหนือกว่าคู่แข่ง และสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ ศุภชัย ใจเด็ด กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการคลายความกดดันให้กับตัวเองและทีมได้เป็นอย่างดี

สำหรับเกมนัดต่อไป ทีมชาติไทยจะพบกับ โอมาน ในวันที่ 21 มกราคม 2567 ซึ่งผมเชื่อว่าทีมชาติไทยมีโอกาสที่จะเก็บชัยชนะได้อีกนัด เพื่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไป

ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ชมทีมชาติไทยเก็บชัยชนะในเกมนัดแรก มันเป็นชัยชนะที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่าทีมชาติไทยยังคงมีศักยภาพในการที่จะประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ ผมเชื่อว่าหากทีมชาติไทยสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีแบบนี้ต่อไปได้ โอกาสในการผ่านเข้ารอบลึกๆ ในศึกเอเชียนคัพ 2023 ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม

สรุป การเข้ามารับตำแหน่ง ของกุนซือทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยหรือ โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย อีกครั้งอย่างเป็นทางการ แทนที่ มาโน โพลกิ้ง ที่ประกาศแยกทางกันไปก่อนหน้านี้ อิชิอิ เคยคุมทีมชาติไทยในช่วงปี 2566-2567 และพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดต่อกัน อิชิอิ มีภารกิจสำคัญในการพาทีมชาติไทยลุยศึกเอเชียนคัพ รอบสุดท้ายที่กาตาร์ในเดือนมกราคม 2024 และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกที่เหลืออีก 4 นัด มาตามลุ้นตามเชียร์กัน

อ้างอิง

1.1. Reference list: The role of the head coach , FIFA,08 Nov 2021: https://www.fifatrainingcentre.com/en/environment/the-team-behind-the-team/the-role-of-the-head-coach.php (Accessed: 18 January 2024). [1]

2.https://www.jfa.jp/eng/japansway/

ดูบอล